พืชไร้ดิน
(Hydroponic) คือ การปลูกพืชที่ไม่ต้องใช้ดินเป็นส่วนประกอบ แต่ใช้สารละลายธาตุอาหารโดยตรงกับพืช ซึ่งอาจมีวิธีการให้สารละลายธาตุอาหารแก่พืชแตกต่างกันไป ปกติ การสังเคราะห์แสงเป็นการใช้พลังงานแสงมาสร้างเป็นอาหารและเก็บสะสมพลังงานไว้ พลังงานธรรมชาติที่พืชได้รับ คือ พลังงานแสงแดด พืชแต่ละชนิดมีความต้องการความเข้มของแสงไม่เท่ากัน
ถ้าความเข้มของแสงมากเกินจุดอิ่มตัวแสง อาจทำให้ใบไหม้เกรียมตายได้
ถ้าปริมาณความเข้มของแสงต่ำ พืชก็จะมีอัตราการสังเคราะห์แสงต่ำ พืชสามารถดูดกลืนแสงในช่วงความยาวคลื่น คือ แสงช่วงความยาวคลื่นระหว่าง 400-500 นาโนเมตร ซึ่งประกอบด้วยแสงสีม่วงกับสีน้ำเงินและสีเขียวกับแสงสีแดงที่มีความยาวช่วงคลื่นระหว่าง
600-800 นาโนเมตร โดยแสงสีแดงเป็นแสงที่พืชสามารถดูดกลืนไว้ได้มากที่สุดและมีอิทธิพลต่อการออกดอกของพืชอีกด้วย
จากรายละเอียดที่กล่าวมาในข้างต้น
การปลูกพืชไร้ดินจำเป็นต้องใช้แสงในการเพาะปลูกอย่างเหมาะสม
ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับพื้นที่ๆมีแสงแดดน้อยหรือไม่มีแสงแดด เช่น
พื้นที่ๆมีอากาศหนาวเย็นหรือพื้นที่ปิด เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประดิษฐ์เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวนี้
จึงศึกษาและเปรียบเทียบการปลูกผักระบบไฮโดรโปรนิกส์แบบใช้แสงแดดธรรมชาติเปรียบเทียบกับแสงสว่างจากหลอดแอลอีดีที่เป็น
Deep Red 660 นาโนเมตร, Red 610-630 นาโนเมตร และ Royal
Blue 445-450 นาโนเมตร
ที่พืชจำเป็นในการสังเคราะห์แสง
การใช้แสงเทียมจากหลอดแอลอีดีในการปลูกพืช
เพื่อทดแทนแสงสว่างตามธรรมชาติ โดยการทดลองนี้เลือกใช้หลอดขนาดกำลังไฟฟ้าเท่ากับ
3 วัตต์ ซึ่งมีความสว่างมากกว่าหลอดแอลอีดีแบบปกติ
อีกทั้ง การเลือกความยาวคลื่นที่เหมาะสม สำหรับการสังเคราะห์แสงของพืชในการทดลองนี้
คือ “Deep
Red” ที่มีความยาวคลื่นเท่ากับ
660 นาโนเมตร “Red” ที่มีความยาวคลื่นเท่ากับ
610-630 นาโนเมตร และ “Royal Blue” ที่มีความยาวคลื่นเท่ากับ
445-450 นาโนเมตร
การออกแบบโคมไฟหลอดแอลอีดี
รางไฟแอลอีดีที่ออกแบบเป็นแนวยาวขนาด 8cm
x 60cm x 8cm (กว้าง x ยาว x สูง)
เพื่อความเหมาะสมสำหรับแปลงผักที่มีความยาว 1 เมตร
หลอดแอลอีดีขนาด 3 วัตต์ กำลังสูงที่มีความร้อนสูงมาก เพื่อระบายความร้อนจึงเลือกใช้อลูมิเนียมเป็นหลัก
ซึ่งสามารถในการกระจายความร้อนและติดพัดลมไฟฟ้ากระแสตรงที่ปลายรางทั้ง 2 ข้าง จำนวน 2 ตัว เพื่อระบายลมร้อน แสดงดังรูปที่1.โดยหลอดแอลอีดีที่ใช้งาน
จำนวน 12 หลอด
แบ่งเป็นอัตราส่วน Deep Red :
Red : Royal
Blue อนุกรมกันเป็น 3 ชุดต่อไฟเป็นขนานให้แต่ละชุด แหล่งจ่ายไฟเลี้ยงระบบขนาด
12 โวลต์
รูปที่ 1. แสดงการติดตั้งหลอดแอลอีดีกับรางอลูมีเนียมและพัดลมระบายความร้อนที่ปลายราง
ตามลำดับ
วงจรเซนเซอร์ตรวจจับความเข้มของแสงแดด
|
ผู้ประดิษฐ์ได้ศึกษาเกี่ยวกับวงจรเซนเซอร์ตรวจจับความเข้มของแสงแดดสำเร็จรูป
เพื่อนำมาใช้ในการเปิด/ปิดแสงเทียมอัตโนมัติ
โดยได้นำระบบเซนเซอร์มาใส่ในกล่องกันน้ำ เพื่อใช้วัดแสงแดดกลางแจ้งได้สะดวก ขนาดโครงกันแสงแดดมีขนาดเท่ากับ (กว้าง
x ยาว x สูง) คือ
2 x 2 x 1.75 เมตร
โดยวัสดุที่นำมาทำ คือ ท่อ PVC ขนาด 6 หุน แสดงดังรูปที่2.
รูปที่ 2. แสดงการติดตั้งโครงกันแสงแดดวงจรเซนเซอร์ตรวจจับความเข้มของแสงแดดสำเร็จรูป
การเจริญเติบโตของผักโดยการใช้แสงไฟเทียม
แสงธรรมชาติดังกล่าว สามารถสรุปผลได้ว่า ในช่วงระยะเวลาแรกนั้น ผู้ประดิษฐ์ใช้แสงจากไฟเทียม
พบว่าการเจริญเติบโตช้ากว่าการได้รับแสงจากธรรมชาติและลำต้นนั้น สั้น เตี้ย
สีของใบเหมือนขาดสารอาหาร ไม่สมบูรณ์ ผู้ประดิษฐ์จึงแก้ไข้ปัญหาดังกล่าวด้วยการเลี่ยนทิศทางของแปลงผักให้สัมผัสแสงแดดเพราะจากสถานที่ๆ
ทำการปลูกผักจากแปลงที่ได้รับไฟเทียมไม่ได้รับแสงแดดเลย เนื่องจากติดเสาของอาคารประกอบกับ
แผ่นกันแสงที่แบ่งระหว่างแปลงเพื่อทำการเปรียบเทียบนั้นบดบังแสงแดด นอกจาก จึงทำการเปลี่ยนไฟและติดตั้งแสงไฟจากหลอด
LED แทน โดยมีการเปิด-ปิดเอง อัตโนมัติ
เพื่อทำการทดสอบการเจริญเติบโตของผัก
สรุป
อภิปรายผลการทดลอง
การดำเนินงานชุดทดลองการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์จากแสงเทียม
ผู้ประดิษฐ์สามารถดำเนินงานได้สำเร็จทุกขั้นตอนตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเมล็ด พัฒนาระบบไฟแสงเทียมและระบบเซนเซอร์ตรวจจับความเข้มของแสง
รวมถึงการควบคุมค่า PH ซึ่งการออกแบบแสงของหลอดแอลอีดีที่อัตราส่วนสีแดงต่อสีน้ำเงินเป็น
2:1 จำนวน 12 หลอดและแต่ละหลอดมีกำลังความร้อนสูญเสียเท่ากับ 3 วัตต์ เพื่อจำลองความเข้มแสงในระดับที่พืชจำเป็นต้องใช้ได้และใช้เซ็นเซอร์แสงในการวัดระดับความเข้มแสง
เพื่อเปิดในเวลาที่แสงไม่พอสำหรับพืช เนื่องจากหลอดไฟแอลอีดีที่ใช้มีความร้อนสูง
ดังนั้น ผู้ประดิษฐ์จำเป็นต้องสร้างระบบรางไฟแอลอีดีที่ออกแบบตามแนวยาวขนาด 2 ฟุต
จากวัสดุอลูมิเนียม เพื่อใช้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นและเป็นการยืดอายุการใช้งานหลอดแอลอีดีที่ใช้งาน
เกษตรกรท่านใดหรือผู้ใดที่อยากทดลองปลูกโดยใช้แสงเทียมที่กล่าวมาข้างต้น … สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการทดลองมาที่เว็บบล็อกนี้หรือสอบถามที่
ID Line: panya.mak ครับ ยินดีครับ.......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น